คำถามสำคัญที่เจ้าของธุรกิจหลายคนต้องเผชิญคือ: เราควรดูแลเว็บไซต์ด้วยตัวเอง หรือควรลงทุนจ้างผู้เชี่ยวชาญ? บทความนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ด้วยเช็คลิสต์การดูแลเว็บด้วยตัวเองและเปรียบเทียบข้อดีของการใช้บริการมืออาชีพ

ส่วนที่ 1: เช็คลิสต์การดูแลเว็บไซต์ WordPress ด้วยตัวเอง (DIY Maintenance)

สำหรับผู้ที่มีเวลา มีความรู้ทางเทคนิค หรือมีทีมงานภายใน การดูแลเว็บไซต์ด้วยตนเองก็เป็นทางเลือกหนึ่ง นี่คือรายการตรวจสอบพื้นฐานที่คุณต้องทำเป็นประจำ:

สิ่งที่ต้องทำรายสัปดาห์:

• [✔] สำรองข้อมูล (Backup): สำรองข้อมูลทั้งไฟล์เว็บไซต์และฐานข้อมูล (Database) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และเก็บไว้นอกเซิร์ฟเวอร์หลัก
• [✔] ตรวจสอบความปลอดภัย: สแกนหา Malware หรือช่องโหว่ด้วยปลั๊กอินด้านความปลอดภัย
• [✔] จัดการความคิดเห็น (Comments): ลบสแปมและตอบกลับความคิดเห็นที่สำคัญ
• [✔] ตรวจสอบการทำงานของเว็บ: ทดลองเข้าใช้งานหน้าต่างๆ และฟังก์ชันสำคัญ เช่น การกรอกฟอร์ม การสั่งซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานปกติ

สิ่งที่ต้องทำรายเดือน:

• [✔] อัปเดตระบบ: อัปเดต WordPress Core, Themes และ Plugins ทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ เพื่อปิดช่องโหว่และเพิ่มประสิทธิภาพ
• [✔] ตรวจสอบความเร็วเว็บไซต์: ใช้เครื่องมือเช่น Google PageSpeed Insights เพื่อเช็คความเร็วและหาจุดที่ต้องปรับปรุง
• [✔] ตรวจหาลิงก์เสีย (Broken Links): แก้ไขลิงก์ที่ใช้งานไม่ได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อประสบการณ์ผู้ใช้และ SEO

สิ่งที่ต้องทำรายไตรมาส:

• [✔] ล้างฐานข้อมูล (Database Optimization): ลบข้อมูลที่ไม่จำเป็น เช่น post revisions เก่าๆ หรือข้อมูลชั่วคราว เพื่อให้ฐานข้อมูลทำงานเร็วขึ้น
• [✔] ตรวจสอบเนื้อหาและ SEO: ทบทวนว่าเนื้อหายังทันสมัยหรือไม่ และประสิทธิภาพของ Keyword เป็นอย่างไร
• [✔] เปลี่ยนรหัสผ่าน: เพื่อความปลอดภัย ควรเปลี่ยนรหัสผ่านของผู้ดูแลระบบและผู้ใช้งานสำคัญอื่นๆ

ส่วนที่ 2: ทำไมการจ้างบริการ “รับดูแลเว็บไซต์ WordPress” จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่า?

หากคุณอ่านเช็คลิสต์ด้านบนแล้วรู้สึกว่าต้องใช้เวลาและความพยายามอย่างมาก การจ้างผู้เชี่ยวชาญอาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ นี่คือข้อดีที่จะได้รับ:

1. ประหยัดเวลาและทรัพยากร: คุณและทีมงานสามารถนำเวลาอันมีค่าไปโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจหลักได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องทางเทคนิค
2. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์: ผู้ให้บริการมืออาชีพมีประสบการณ์ในการแก้ปัญหาที่หลากหลายและซับซ้อน สามารถจัดการกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น เว็บล่ม หรือถูกโจมตี ได้อย่างรวดเร็วและถูกวิธี
3. ความปลอดภัยเชิงรุก: พวกเขามีเครื่องมือและกระบวนการที่ดีกว่าในการป้องกันปัญหาเชิงรุก ไม่ใช่แค่การรอแก้ปัญหาเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ช่วยลดความเสี่ยงที่ธุรกิจจะหยุดชะงัก
4. ประสิทธิภาพสูงสุด (Peak Performance): ผู้เชี่ยวชาญรู้วิธีปรับแต่งเว็บไซต์ให้โหลดเร็วและทำงานได้อย่างเสถียรอยู่เสมอ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของผู้ใช้และอันดับ SEO
5. ความสบายใจ (Peace of Mind): การรู้ว่ามีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเว็บไซต์ของคุณตลอดเวลา ช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายใจ

การเลือกใช้ บริการรับดูแลเว็บไซต์ wordpress ไม่ใช่แค่การจ้างคนมาอัปเดตปลั๊กอิน แต่คือการลงทุนในความปลอดภัย ความเร็ว และความน่าเชื่อถือของธุรกิจคุณในระยะยาว

สรุป: แบบไหนเหมาะกับคุณ?

• ดูแลด้วยตัวเอง (DIY): เหมาะสำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่ไม่ซับซ้อน เจ้าของธุรกิจมีความรู้ด้านเทคนิค มีเวลา และพร้อมที่จะเรียนรู้
• จ้างมืออาชีพ: เหมาะสำหรับธุรกิจทุกขนาดที่มองว่าเว็บไซต์คือเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจ ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ต้องการประสิทธิภาพที่ดีที่สุด และต้องการนำเวลาไปมุ่งเน้นที่การเติบโตของธุรกิจ

ไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “อย่าละเลย” การดูแลเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์ที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง